เปิด 5 อาการ ที่บ่งบอกว่าคุณควรสวมใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ
สายตาเริ่มงอแงกันหรือยัง ? เพราะในแต่ละวันเราต้องใช้สายตาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ถ้าเริ่มรู้สึกว่าการมองเห็นไม่คมชัดทุกระยะได้เหมือนเดิม ต้องเพ่งสายตาจนคิ้วขมวด หรือถึงขั้นตาล้าจนปวดหัว นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าควรเปลี่ยนมาใช้เลนส์โปรเกรสซีฟแล้ว นวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาสายตาให้กลับมามองเห็นได้ชัดในทุกระยะในแว่นอันเดียว มาดูกันว่า 5 อาการที่บอกว่าควรลองหันมาใช้เลนส์ชนิดนี้มีอะไรบ้าง
5 อาการ ที่บ่งบอกว่าคุณควรใช้งานแว่นโปรเกรสซีฟ
มาลองสังเกตตัวเองกันว่าเริ่มมีอาการเหล่านี้บ้างหรือยัง
1. มองเห็นไม่ชัดทั้งระยะใกล้ และไกล
เวลาอ่านหนังสือหรือดูสมาร์ตโฟนแล้วต้องยื่นแขน หรือมองใกล้ ๆ แล้วเบลอ อาจเป็นสัญญาณของสายตายาวตามวัย จากกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการปรับโฟกัสเสื่อมลง
2. ตาล้าหรือปวดหัวเมื่อต้องใช้สายตา
อาการตาล้า ปวดกระบอกตา และปวดหัว ที่เกิดขึ้นเมื่อทำงานหน้าคอมนาน ๆ เพราะต้องปรับโฟกัสระหว่างมองจอและหนังสือบ่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักเกินไป
3. ความเปลี่ยนแปลงด้านการมองเห็น
หากเริ่มมองเห็นไม่ชัด อ่านหนังสือไม่นานแล้วตาเริ่มมัว หรือขยี้ตาบ่อย ๆ เพื่อให้ชัดขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าสายตากำลังเปลี่ยนแปลง
4. ปัญหาการมองเห็นในช่วงกลางคืน
เมื่อขับรถตอนกลางคืนแล้วมองเห็นไม่ชัด หรือแสงไฟจ้าจนรบกวน ปรับโฟกัสสายตาระหว่างมองถนนกับแผงหน้าปัดยากขึ้น แสดงว่าการมองเห็นในที่แสงน้อยอาจเริ่มเป็นปัญหา
5. อายุที่เพิ่มมากขึ้น (วัย 40+)
เลนส์ตาจะเริ่มแข็งตัว สูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้การมองใกล้ยากขึ้น ซึ่งเป็นอาการของสายตายาวตามวัย
ขั้นตอนการตัดแว่นโปรเกรสซีฟต้องทำอะไรบ้าง
หากถึงเวลาต้องใช้แว่นที่เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ การเลือกและตัดแว่นให้เหมาะสมจะช่วยให้มองเห็นชัดและสบายตาที่สุด การตัดแว่นโปรเกรสซีฟมีขั้นตอนดังนี้
จองคิวนัดหมาย
โดยเลือกร้านแว่นที่เชี่ยวชาญด้านเลนส์ แจ้งความต้องการตัดแว่นเพื่อเตรียมการตรวจและคำปรึกษาที่เหมาะสม
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการตรวจ
ควรพักสายตาเพียงพอ งดใส่คอนแทคเลนส์ 24 ชั่วโมง งดแอลกอฮอล์ รวมถึงแจ้งประวัติสุขภาพ และนำแว่นสายตาเก่าไปด้วยเพื่อทำการเปรียบเทียบ
ตรวจวัดสายตากับผู้เชี่ยวชาญ
ซึ่งแว่นที่ใช้เลนส์ที่ชัดทุกระยะ จะต้องตรวจละเอียดกว่าปกติ ผู้เชี่ยวชาญจะวัดค่าสายตาสั้น ยาว เอียง ขนาดรูม่านตา และระยะห่างระหว่างตา เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่เหมาะสม
เลือกเลนส์ และกรอบแว่นที่เหมาะสม
ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเลือกชนิดเลนส์ และขนาดกรอบแว่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมปรับดัดแว่นให้พอดีกับใบหน้า เพื่อให้สบายและปรับตัวได้ง่ายขึ้น
ทดลองใช้งานแว่นโปรเกรสซีฟ
ควรทดลองสวมแว่นโปรเกรสซีฟก่อน เพื่อเช็คว่าแต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้งานและสายตาเราหรือไม่ หากรู้สึกไม่สบายหรือมีปัญหาให้ผู้เชี่ยวชาญปรับแก้ให้ถูกต้อง
การดูแลรักษาแว่นโปรเกรสซีฟ
แว่นชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจึงช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพภาพการมองเห็น ด้วยวิธีการดังนี้
ทำความสะอาดด้วยความอ่อนโยน
ล้างเลนส์ด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างเลนส์เฉพาะ หลีกเลี่ยงน้ำยาล้างจานหรือแอลกอฮอล์ ล้างเบา ๆ ป้องกันเลนส์เสียรูป แล้วเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ลดความเสี่ยงต่อรอยขีดข่วน
หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลนส์โดยตรง
ควรจับแว่นที่กรอบแทนการจับไปที่เลนส์โดยตรง เพื่อป้องกันรอยนิ้วมือ รอยขีดข่วน คราบสกปรก
เก็บในพื้นที่ที่เหมาะสม
เก็บแว่นในกล่องเพื่อป้องกันการกระแทกและฝุ่นละออง โดยไม่วางคว่ำอาจะทำให้เป็นรอย และเลี่ยงการเก็บในที่ที่อุณหภูมิสูง
ตรวจสภาพของเลนส์อยู่เสมอ
หากพบรอยขีดข่วนหรือความผิดปกติของแว่นและเลนส์ ควรนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทุก 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อแก้ไขทันที
สรุป
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาสายตาที่ทำให้มองเห็นไม่ชัด ตาล้า หรือปวดหัวจากการใช้สายตานาน การเลือกใช้เลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสม จะช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนแว่นไปมา แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าเลนส์ทั่วไป แต่ก็คุ้มค่าแก่การลงทุนเพื่อความสะดวกสบายและคุณภาพการมองเห็นที่ดีขึ้น