ตัดแว่นโปรเกรสซีพที่ร้านแว่นตา OPTICLAND ราคาเท่าไหร่ ?
สำหรับหลายคนที่คุ้นเคยกับปัญหาสายตายาวตามวัย จนทำให้มองภาพระยะไหนก็ไม่ชัด และหลายครั้งต้องใช้แว่นหลายอันสลับใส่ไปมา อาจจะรู้สึกคุ้นหูกับคำว่า “เลนส์โปรเกรสซีฟ” อยู่บ้าง โดยตัวเลนส์ชนิดนี้ คือ เลนส์ชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างตรงจุด ทำให้ผู้สวมใส่สามารถเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนในทุกระยะนั่นเอง แต่สำหรับใครที่สนใจอยากตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ข้อมูลเท่านี้คงไม่พอ วันนี้ Opticland จึงขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับเลนส์ตัวนี้ให้มากขึ้น เพื่อตอบทุกคำถามก่อนการตัดสินใจตัดแว่นโปรเกรสซีฟ พร้อมแนะนำบริการตัดแว่นคุณภาพที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุดให้ได้รู้กัน
สารบัญ
- เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร ?
- ทำไมการตัดแว่นโปรเกรสซีฟจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนสูงอายุ
- ข้อดีและข้อเสียของการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
- การเตรียมตัวก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
- ขั้นตอนการตรวจวัดสายตาเพื่อการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
- ทำไมต้องตัดแว่นโปรเกรสซีฟที่ OPTICLAND
- ชนิดและราคาของเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ร้านแว่นตา Opticland
- การดูแลและรักษาแว่นโปรเกรสซีฟ
- รีวิวจากลูกค้า
- กรอกแบบฟอร์มเพื่อทำการนัดหมาย
- นัดหมายนักทัศนมาตรตรวจสายตาได้เลยที่นี่
เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร ?
เลนส์โปรเกรสซีฟ คือ เลนส์หลายชั้นแบบไร้รอยต่อ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาสายตายาวตามอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาสายตาทั้งระยะไกลและระยะใกล้ โดยโครงสร้างของเลนส์ชนิดนี้จะมีการไล่ค่าสายตาจากบนลงล่าง ทำให้ผู้ส่วมใส่สามารถมองได้หลายระยะ ทั้งระยะไกล กลาง และใกล้ ตอบโจทย์กับทุกกิจกรรมโดยไม่ต้องถอดเข้า-ออก หรือมีแว่นหลายอัน
ทำไมการตัดแว่นโปรเกรสซีฟจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนสูงอายุ
ทำไมการตัดแว่นโปรเกรสซีฟจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนสูงอายุ ก็คงเป็นเพราะเมื่อเราเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป เราจะเริ่มมีปัญหาการมองเห็นในระยะใกล้หรือเริ่มมีค่าสายตายาวตามอายุ ทำให้เริ่มมองใกล้ ๆ ไม่ชัด ต้องยืดแขนไกลออกไประยะหนึ่ง ซึ่งหากต้องจ้องมองระยะใกล้ ๆ เป็นเวลานาน ๆ ก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดกระบอกตา ปวดหัว และตาล้าจากปัญหาสายตานี้ด้วย
ตัวโปรเกรสซีฟเลนส์นี้เป็นเลนส์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาต่อมาจากเลนส์สองชั้น เพื่อแก้ปัญหาสายตาดังกล่าว โดยที่ตัวเลนส์จะไม่มีเส้นแบ่งระหว่างเลนส์ระยะมองไกลกับระยะมองใกล้เหมือนกับเลนส์สองชั้น ทำให้มุมมองของภาพไม่มีการกระโดด ทั้งยังดูเป็นธรรมชาติและนุ่มนวลกว่า นอกจากนี้เลนส์ประเภทนี้ยังใส่แล้วดูสวยงามทันสมัยมากกว่าเลนส์สองชั้นด้วย เหล่านี้ คือ เหตุผลว่าทำไมคนในช่วงวัย 40 ปีขึ้นไปจำนวนมากถึงหันมาเลือกตัดแว่นโปรเกรสซีฟกันเป็นหลัก
ข้อดีและข้อเสียของการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
สำหรับข้อดีและข้อเสียของการตัดแว่นโปรเกรสซีฟก็มีอยู่ทั้งสองด้าน เช่นเดียวกับสิ่งอื่น ๆ ทั่วไป โดยจะขอแนะนำข้อดีของเลนส์ชนิดนี้ก่อน ได้แก่
- มองภาพคมชัดทุกระยะใกล้ กลาง ไกล ไม่ต้องสลับหรือพกแว่นหลายอัน
- ภาพที่มองเห็นสวยงาม ลื่นไหล ไร้รอยต่อ ทำให้ไม่เกิดภาพกระโดด
- เหมาะกับผู้มีไลฟ์สไตล์แอ็กทิฟ ใช้สายตาหลายระยะ
- เสริมบุคลิกภาพ ตอบโจทย์แฟชั่นด้วยรูปลักษณ์ทันสมัย เลนส์ไม่มีรอยต่อ สวมแล้วดูอ่อนเยาว์เข้าเทรนด์อยู่เสมอ
ขณะที่ข้อเสียหรือข้อจำกัดของเลนส์ชนิดโปรเกรสซีฟ มีดังนี้
- ราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเลนส์ทั่วไปและใช้เวลาในการผลิต เนื่องจากเป็นเลนส์เฉพาะบุคคลโดยเฉพาะ
- กรอบแว่นบางประเภทอาจไม่สามารถใช้งานร่วมกับตัวเลนส์ได้
- ตัวเลนส์มีโซนภาพบิดเบือนที่จำกัดพื้นที่การมองเห็น
- ผู้ใช้บางคนอาจต้องใช้เวลาปรับตัวในการสวมแว่นโปรเกรสซีฟ
แต่ถึงแม้ว่าตัวเลนส์ชนิดนี้อาจจะมีข้อจำกัดดังที่กล่าวไป แต่ปัญหาหลายอย่างก็สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในการเลือกกรอบแว่นที่ใช่และการปรับตัวให้ใช้แว่นได้สะดวก เพราะฉะนั้นใครที่สนใจจะตัดแว่นโปรเกรสซีฟก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพียงมีทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลตลอดทั้งกระบวนการ ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่มีทางมากวนใจได้แน่นอน
การเตรียมตัวก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
การเตรียมตัวก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ นับเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญ เพราะตัวเลนส์นี้จะสั่งทำเป็นค่าเฉพาะตัวบุคคลซึ่งทำให้มีราคาที่สูงกว่าเลนส์ทั่วไป ดังนั้นก่อนจะตัดแว่นเราจึงต้องเตรียมตัวให้ดี เพื่อให้แน่ใจได้ว่าค่าสายตาที่ได้จะแม่นยำ ตรงกับค่าสายตาปกติมากที่สุด และได้แว่นที่ใส่แล้วสบายตากลับบ้านไป โดยการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการหลัก ๆ มีดังนี้
พักผ่อนให้เพียงพอ
ก่อนมาวัดค่าสายตาเพื่อตัดแว่นโปรเกรสซีฟควรพักผ่อนให้เพียงพอสักประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการตาล้า ตาพร่า ตามัว และควรงดเล่นโทรศัพท์ มองจอ หรือเพ่งสายตาหนัก ๆ สัก 1 ชั่วโมงก่อนเข้าตรวจสายตา ให้สายตาได้พักอย่างเต็มที่มากที่สุด
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แนะนำให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดหนึ่งคืนก่อนตื่นมาตรวจสายตา เพราะการดื่มสามารถทำให้ค่าสายตาคลาดเคลื่อนได้
เช็กปัญหาสุขภาพ
เช็กปัญหาสุขภาพเบื้องต้นก่อนเข้ารับการตรวจสายตา เพราะยาบางชนิดมีผลต่อค่าสายตาที่คลาดเคลื่อน หากมีอาการป่วยจึงควรรักษาให้หายดีเสียก่อนเข้าตรวจสายตา และควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเกี่ยวกับประวัติการรักษานั้น นอกจากนี้หากมีประวัติเกี่ยวกับการรักษาโรคตา ก็ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย
ในกรณีของโรคบางโรค เช่น โรคเบาหวาน ไทรอยด์ และความดัน ล้วนส่งผลให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงได้ง่าย โดยเฉพาะตัวโรคเบาหวานที่ค่าน้ำตาลส่งผลต่อการบวมและยุบของเลนส์ตา ทำให้ค่าสายตามีการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ในกรณีนี้จึงควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อนการตรวจ และควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจวัดสายตาให้ทราบก่อนเช่นกัน
พักการใส่คอนแทคเลนส์
พักการใส่คอนแทคเลนส์ก่อนเข้ามาตรวจวัดสายตาอย่างน้อย 1 วัน เพื่อให้กระจกตาได้พักและปรับสภาพคืนรูปอย่างสมบูรณ์ก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
นำแว่นเดิมมาด้วย
หากใครมีแว่นคู่ใจอยู่แล้ว อย่าลืมนำแว่นเดิมมาด้วย เพื่อให้นักทัศนมาตรได้นำแว่นนั้นมาตรวจสอบและวิเคราะห์ค่าสายตาร่วมกัน และใช้ดูด้วยว่าค่าสายตาเรามีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเท่าใด
คำแนะนำเพิ่มเติม
คำแนะนำเพิ่มเติมจากที่ได้กล่าวมา อาจเป็นการดูกรอบแว่นแบบที่ถูกใจไว้เบื้องต้นก่อนเข้ารับคำปรึกษา และควรสังเกตอาการเกี่ยวกับการมองเห็นของตัวเองเพื่อเป็นประโยชน์ในขั้นตอนการซักประวัติของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจวัดสายตา
ขั้นตอนการตรวจวัดสายตาเพื่อการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
ขั้นตอนการตรวจวัดสายตาเพื่อการตัดแว่นโปรเกรสซีฟกับ Opticland มีหลัก ๆ อยู่ 6 ขั้นตอนได้แก่
การซักประวัติ
เริ่มจากที่นักทัศนมาตรจะทำการซักประวัติของผู้เข้าใช้บริการทั้งเรื่องการมองเห็น ตลอดจนเรื่องของแว่นอันเก่าเพื่อทำความเข้าใจกับปัญหาสายตาที่แต่ละคนต้องเผชิญ รวมไปถึงจะมีการสอบถามเรื่องไลฟ์สไตล์และลักษณะการใช้สายตาในชีวิตประจำวันควบคู่กันไปด้วย เพื่อนำมาพิจารณาและแนะนำเลนส์ที่เหมาะสำหรับลูกค้าแต่ละท่านมากที่สุด
การตรวจการทำงานของตา
การตรวจการทำงานของตาช่วยประเมินความสามารถในการมองเห็นและมุมมองของภาพ ทั้งยังรวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ เช่น ดูเรื่องการเคลื่อนไหวของตา ทดสอบตาบอดสีเบื้องต้น และทดสอบความสามารถในการเพ่งมองระยะต่าง ๆ เป็นต้น
การหาความผิดปกติของสายตา
ในขั้นตอนการหาความผิดปกติของสายตา นักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญจะใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ มาตรวจวัดค่าสายตาอย่างแม่นยำ โดยที่ Opticland เรามีเครื่องโฟร็อปเตอร์ Vision R-800 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีความทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ช่วยให้สามารถวัดสายตาออกมาค่าละเอียด แม่นยำ ในเวลาอันรวดเร็ว
การตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น
การตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นหากสงสัยว่าผู้ใช้บริการจะมีโรคตาที่แก้ไขด้วยเลนส์สายตาและคอนแทคเลนส์ไม่ได้ เช่น ต้อกระจก ต้อลม ซึ่งจะมีการสกรีนโรคและส่งต่อให้กับจักษุแพทย์ต่อไป
การทดลองใส่เลนส์จริง
ขั้นตอนการทดลองใส่เลนส์จริงเกิดขึ้นหลังจากที่วัดสายตาโดยละเอียดเสร็จสิ้นแล้ว โดยนักทัศนมาตรจะมีการพิจารณาค่าสายตาที่เหมาะสมร่วมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละท่าน แล้วเลือกเลนส์ให้ทดลองใส่เดินก่อนสังตัดแว่นโปรเกรสซีฟ รวมถึงแว่นใด ๆ ก็ตามที่เป็นค่าเฉพาะบุคคล
การแนะนำกรอบแว่น
เมื่อได้เลนส์แล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนการแนะนำกรอบแว่น โดยจะมีการพิจารณาจากทั้งตัวเลนส์ รูปหน้า ไลฟ์สไตล์ กระทั่งอาชีพก็มีส่วนด้วย และหลังจากเลือกกรอบแว่นที่เหมาะสมไปจนถึงขั้นตอนการตัดแว่นเสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อมารับแว่น ทางร้านก็จะมีการปรับดัดแว่นให้เข้ากระชับกับใบหน้าและใส่ได้อย่างสบายตาที่สุด ทำให้ทุกคนปรับตัวเข้ากับแว่นได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
ทำไมต้องตัดแว่นโปรเกรสซีฟที่ OPTICLAND
สาเหตุที่ต้องมาตัดแว่นโปรเกรสซีฟที่ OPTICLAND ก็เพราะว่าที่นี่เรามีมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตรวจวัดสายตา หรือเรียกว่า นักทัศนมาตร (หมอสายตา) ซึ่งสามารถให้คำแนะนำทั้งเรื่องค่าสายตาที่เหมาะสม กรอบแว่นที่เข้ากับลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคล ตลอดจนตัวเลนส์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ได้ พร้อมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะทำให้การวัดค่าสายตาเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ผสานกับกรอบแว่นและเลนส์คุณภาพเยี่ยมในราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้เชื่อใจได้ว่าแว่นอันใหม่จะตอบโจทย์ทุกคนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทางร้านเองยังให้ความสำคัญกับการสวมใส่ที่สบายตาที่สุด ดังนั้นหลังจากที่เราทำการตัดแว่นโปรเกรสซีฟเสร็จแล้ว เมื่อมารับแว่นก็จะมีกระบวนการ Fitting และปรับดัดกรอบแว่นที่ประณีตและพิถีพิถันโดยช่างเเว่นที่มีความชำนาญ ที่ทำงานด้านนี้มามากกว่า 30 ปี และเราพร้อมที่จะดูแลลูกค้าทุกท่านอย่างใส่ใจด้วยบริการหลังการขายที่จริงใจเช่นกัน
ชนิดและราคาของเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ร้านแว่นตา Opticland
การเลือกโปรเกรสซีฟก็เหมือนกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่สวมใส่ ในรุ่นเริ่มต้นก็เปรียบเสมือนเสื้อผ้าสำเร็จรูปตามร้านทั่ว ๆ ไป ที่มีขนาดมาตรฐาน S M L XL ให้เราเลือกใส่แต่อาจจะไม่ได้ใส่พอดีกับเรา อาจจะเล็กไป ใหญ่ไป คับบ้าง หลวมบ้าง สามารถสวมใส่ได้ แต่อาจจะไม่สบายมากนัก
ขณะที่ตัวโปรเกรสซีฟซึ่งเป็นเลนส์รุ่นพรีเมียม จะสามารถวัดและสั่งตัดออกมาได้ตามที่เราต้องการ เพื่อให้สวมได้สบายตาและรู้สึกคล่องตัวทุกการเคลื่อนไหว จึงเปรียบเสมือนเสื้อที่สั่งตัดให้มีขนาดพอดีตัวเราโดยเฉพาะ ทำให้ถึงแม้จะมีราคาสูงขึ้นมาสักนิด แต่ก็ใส่ได้สบายพอดีรูปหน้าและเข้ากับเรากว่าใคร
สำหรับราคาเริ่มต้นโปรเกรสซีฟจะอยู่ที่ 4,000 ไปจนถึง 80,000 บาท ขึ้นอยู่กับค่าสายตา ชนิดเลนส์ที่เลือก และ OPTION เสริม เช่น เลนส์ย่อบาง เลนส์เปลี่ยนสี เลนส์ย้อมสี หรือคุณสมบัติโพลาไรซ์บนเลนส์ เป็นต้น
การดูแลและรักษาแว่นโปรเกรสซีฟ
การดูแลและรักษาแว่นโปรเกรสซีฟควรทำให้ถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพการมองเห็นให้คงคุณภาพสูงสุดเอาไว้ โดยหลังจากตัดแว่นโปรเกรสซีฟมาแล้ว ก็สามารถดูแลตัวเลนส์และแว่นได้ตามแนวทางดังต่อไปนี้
ล้างเลนส์ให้สะอาด
หมั่นล้างเลนส์ให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างเลนส์แว่นตา โดยไม่ต้องออกแรงกดมากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้เลนส์เสียรูป จากนั้นเช็ดเลนส์ให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ให้แห้งก่อนนำไปใช้สวมใช้งานต่อ
หลีกเลี่ยงการกดทับ
หลีกเลี่ยงการกดทับตัวแว่นในกรณีต่าง ๆ เช่น เผลอนั่งทับแว่น หรือใส่ตัวแว่นลงไปในกระเป๋าพร้อมของอื่น ๆ เพราะอาจจะทำให้ตัวกรอบแว่นเกิดการบิดเบี้ยวและเสียรูปได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลให้ใส่ไม่สบาย แต่อาจกระทบกับสายตาและการมองเห็นด้วย
นอกจากนี้ การวางแว่นก็ไม่ควรวางเลนส์ให้คว่ำไปกับพื้น เนื่องจากอาจจะทำให้ผิวเลนส์ครูดกับพื้นผิวที่ไม่เรียบจนทำให้เกิดรอย ส่งผลต่อการมองเห็นเช่นกัน
หากไม่ใช้งานแว่นแล้ว ทางที่ดีควรห่อแว่นด้วยผ้าหนึ่งชั้นและเก็บแว่นไว้ในกล่องใส่แว่นให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการขีดข่วนและความเสียหายจากการกระแทก
ตรวจสอบสภาพแว่นเป็นประจำ
อย่าลืมตรวจสอบสภาพแว่นเป็นประจำทุก ๆ 6 หรือ 12 เดือนกับนักทัศนมาตร เพื่อดูว่าเลนส์หรือกรอบแว่นมีความเสียหายหรือไม่ รวมถึงให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาด้วยว่าแว่นยังมีประสิทธิภาพในการใช้งานตามควรหรือเปล่า
รีวิวจากลูกค้า
รวมรีวิวจากลูกค้า การันตีคุณภาพ ขอขอบคุณทุกความไว้วางใจของลูกค้าทุกท่านที่มอบให้ร้านแว่นตา Opticland เสมอมา
กรอกแบบฟอร์มเพื่อทำการนัดหมาย
หากคุณต้องการใช้บริการ ร้านแว่นตา OPTICLAND ต้องทำการเลือกวันนัดหมาย กับนักทัศนมาตรของร้านแว่นตา OPTICLAND
สามารถนัดได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น. (วันอาทิตย์ 10.00 - 16.00)
นัดหมายนักทัศนมาตรตรวจสายตาได้เลยที่นี่
สำหรับผู้ที่อยากตัดแว่นโปรเกรสซีฟสามารถเข้ามาปรึกษากับนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาได้ที่ร้านแว่นตา Opticland ตามพิกัดด้านล่างนี้
Location ร้านแว่นตา OPTICLAND: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่
Location ที่จอดรถ (โรงแรม Carlton): คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่
คำถามที่พบบ่อย
Opticland ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตัดแว่นโปรเกรสซีฟมาแล้ว ดังนี้
แว่นโปรเกรสซีฟ ใส่แล้วเวียนหัวทุกอันจริงหรือไม่
ไม่จริง ขึ้นอยู่กับค่าสายตาว่าถูกต้องหรือไม่ รวมถึงชนิดของเลนส์ และการ Fitting ว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสมหรือเปล่า
ตัดแว่นโปรเกรสซีฟแล้ว ต้องใส่ตลอดเวลาจริงหรือไม่
ไม่เสมอไป อาจจะแยกได้เป็น 2 กรณี
กรณีที่ 1 สำหรับคนที่มีค่าสายตาทั้งมองไกลและใกล้และคนที่พึ่งเริ่มใส่แว่นโปรเกรสซีฟเป็นตัวแรก ควรใส่ตลอดเวลาเพื่อให้การมองชัดทั้งระยะไกลและใกล้
กรณีที่ 2 ค่าสายตามองไกลเป็นศูนย์หรือสายตาปกติ แต่มีค่าสายตามองใกล้ อาจจะใส่เฉพาะตอนเข้าประชุม หรือตอนขับรถ หรือในกรณีที่ต้องมองไกลและใกล้ในช่วงเวลาเดียวกันเพื่อความสะดวกไม่ต้องคอยถอดแว่นเข้า-ออก
แว่นโปรเกรสซีฟ ใส่ขับรถได้หรือไม่
ใส่ได้ เพราะแว่นโปรเกรสซีฟจะมีโซนด้านบนสำหรับการมองระยะไกลและมีโซนด้านล่างสำหรับมองใกล้ สามารถมองถนน มองป้ายบอกทางได้อย่างคมชัด และยังสามารถมองคอนโซลรถ หรือดู GOOGLE MAP ได้อย่างสะดวกสบาย คล่องตัว
แว่นโปรเกรสซีฟ เหมาะสำหรับคนอยู่แต่กับหน้าจอคอมหรือไม่
แยกได้เป็น 2 กรณี
เหมาะสำหรับคนที่ทำงานโน้ตบุ๊กหรือแล็ปท็อป เพราะสามารถเหลือบตาลงมาแล้วมองเห็นที่ระยะ 40 cm ได้ทันที โดยไม่ต้องเงยหน้าหรือเงยคอขึ้น
สำหรับคนที่ใช้หน้าจอ PC หรือ BIG SCREEN ก็สามารถใช้โปรเกรสซีฟได้ แต่อาจจะต้องปรับเก้าอี้ให้สูงขึ้น และปรับโต๊ะให้ต่ำลง หรือเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อจะได้มองผ่านโซนที่เป็นระยะสำหรับทำคอมได้พอดี แต่มุมมองอาจจะแคบกว่าแว่น SINGLE หรือ OFFICE LENSES
ในกรณีที่ใช้จอคอมมากกว่า 1 จอ อาจจะแนะนำเลนส์ที่เหมาะสมมากกว่าโปรเกรสซีฟ
ถ้าจะตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ต้องตัดกับนักทัศนมาตรเท่านั้น จริงหรือ
จริง เนื่องจากนักทัศนมาตรจะสามารถแนะนำชนิดของเลนส์โปรเกรสซีฟได้เหมาะสมกับค่าสายตาและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล และยังช่วยแนะนำเรื่องการเลือกกรอบแว่น และการปรับดัดแว่นที่เหมาะสม ที่จะทำให้แว่นโปรเกรสซีฟที่ตัดออกมาใส่สบายและปรับตัวได้ง่ายมากขึ้น