วิธีวัดสายตาด้วยตัวเองง่าย ๆ คลายความสงสัยเบื้องต้นก่อนไปร้านแว่นตา
การวัดสายตา ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการนำไปตัดเป็นแว่นสายตา เป็นกระบวนการที่ต้องปฏิบัติโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาอย่างนักทัศนมาตร หรือจักษุแพทย์เท่านั้น เพราะนอกจากจะสามารถตรวจวัดได้อย่างแม่นยำแล้ว ยังสามารถให้คำแนะนำเรื่องปัญหาสายตาได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
ทั้งนี้สำหรับการตรวจวัดเบื้องต้นด้วยตัวเองเพื่อให้รู้ตัวเองว่า เรากำลังมีปัญหาสายตาอะไรอยู่ และควรเข้ามาตรวจวัดโดยผู้เชี่ยวชาญแล้วหรือยัง จะสามารถทำได้อย่างไรบ้าง มาหาคำตอบกันได้ในบทความโดยนักทัศนมาตร ประจำร้านแว่นตา OPTICLAND
3 วิธีตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของสายตาด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่บ้าน
วิธีตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของสายตาด้วยตัวเอง สำหรับใครที่ยังลังเล หรือไม่แน่ใจว่าตอนนี้ค่าสายตาของเราเปลี่ยนแปลงไปแล้วหรือไม่ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องตัดแว่นสายตาใส่เป็นครั้งแรกของชีวิต หรือควรเปลี่ยนแว่นใหม่ตามค่าสายตาที่เปลี่ยนไป สามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของสายตาได้ด้วยเองง่าย ๆ เพียง 3 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 ลองปิดตาซ้าย-ขวา
ปิดตาที่ละข้างและมองไปยังตัวอักษรหรือวัตถุที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 3-6 เมตร เปรียบเทียบกับคนที่มีค่าสายตาปกติที่ระยะทางเท่ากัน ถ้าหากพบว่ามีอาการเห็นภาพไม่ชัด ภาพเบลอ เห็นภาพซ้อน หรือความสามารถในการมองเห็นทั้ง 2 ข้างมีความคมชัดที่ไม่ใกล้เคียงกัน อาจเป็นตัวบ่งบอกถึงปัญหาสายตา เนื่องจากในกรณีมีสายตาผิดปกติที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง เราอาจจะไม่สามารถสังเกตได้จากการมองพร้อมกันสองตา
วิธีที่ 2 สังเกตจากชีวิตประจำวัน
สังเกตจากการที่เรายังใช้งานสายตาระยะเท่าเดิม แต่ทำไมเริ่มมีการมองเห็นที่ไม่ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน อาจต้องขยับตัวเข้าไปใกล้วัตถุมากขึ้น หรือย้ายวัตถุให้ออกห่างมากขึ้น หรือต้องมีการเพ่งช่วย ถึงทำให้เห็นภาพได้ดีขึ้น ซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเหล่านี้อาจจะบ่งบอกถึงปัญหาสายตาตามมา เช่น คนที่สายตาสั้นอาจจะต้องขยับตัวเลื่อนเข้าหาวัตถุหรือตัวอักษรให้ใกล้ขึ้น เพื่อที่จะทำให้เห็นภาพหรือตัวอักษรได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมไปถึงคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ก็จะเริ่มมีค่าสายตาที่เรียกว่า ค่าสายตาตามอายุ หากเริ่มมีการยืดแขนเพื่อทำให้วัตถุที่อยู่ระยะใกล้อยู่ห่างออกไป แล้วทำให้เห็นภาพที่ระยะใกล้ชัดขึ้น อ่านตัวหนังสือได้ดีขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกเราได้ว่า เราเริ่มมีปัญหาสายตายาวตามอายุ
วิธีที่ 3 มองเห็นแสงฟุ้งกระจาย ตอนกลางคืนแย่กว่าตอนกลางวัน
มองเห็นแสงฟุ้ง ๆ กระจายรอบ ๆ วัตถุ หรือเห็นขอบภาพไม่คมชัด มักเป็นตอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน เนื่องจากตอนกลางวันมีแสงสว่างที่มากเพียงพอ และในตอนกลางคืน แสงสว่างจะน้อยกว่า ทำให้รูม่านตาจะขยายใหญ่เพื่อรับแสงให้เข้ามาได้มากขึ้น
เราอาจเปรียบเทียบเหมือนกับกล้องที่มีเลนส์ขนาดใหญ่ และเลนส์ขนาดเล็กในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน จะพบว่าเมื่อใช้เลนส์กล้องขนาดใหญ่จะทำให้ระยะชัดมีน้อยลง ต้องปรับโฟกัสมากขึ้น เมื่อเริ่มขยับกล้องจะทำให้หลุดโฟกัสได้ง่ายมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์กล้องขนาดเล็ก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาตอนกลางคืนเรามองได้แย่กว่าตอนกลางวัน หรือคนที่มีปัญหาสายตาเอียงเวลาขับรถ ก็จะเห็นแสงฟุ้งกระจายได้เหมือนกัน และมักมีอาการปวดหัว ปวดตา ล้าตา ร่วมด้วย หลังจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ
วัดสายตากับนักทัศนมาตรหรือจักษุเเพทย์
หลังจากตรวจเช็กค่าสายตาด้วยตัวเองง่าย ๆ ตาม 3 วิธีที่ได้แนะนำไปข้างต้นแล้ว หากพบอาการ หรือปัญหาสายตาต่าง ๆ ควรเข้ามาตรวจเช็กค่าสายตากับนักทัศนมาตรหรือจักษุเเพทย์เพื่อความแม่นยำอีกครั้ง และเพื่อทำการแก้ไขค่าสายตาที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้องต่อไป
สำหรับผู้ที่ต้องการวัดค่าสายตา และทำการแก้ไขค่าสายตา สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ นักทัศนมาตรด้านสายตาได้ที่ร้านแว่นตา Opticland ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดินทางง่าย ที่ปากซอยสุขุมวิท 29 ระหว่างห้างดังอย่าง Emquatier และ Terminal21 สามารถเดินทางมาได้ทั้ง BTS สถานีอโศก, BTS สถานีพร้อมพงษ์ และ MRT สถานีสุขุมวิท หรือสามารถเดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว โดยสามารถนำรถมาจอดได้ที่ โรงแรม Carlton สุขุมวิท 27
เขียนโดย : ณพล สุทธิเดชานัย, OD.
นักทัศนมาตรประจำร้านแว่นตา OPTICLAND